ฉบับเดือนมกราคม 2565

“ปีใหม่ชีวิตใหม่…ชีวิตดีสร้างได้ด้วยมือเรา New Year New Me…Your Life is in Your Hand”

8 เคล็ดลับพัฒนาตนเอง (Self-improvement) |
ที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีประสิทธิผลมากขึ้น

ทราบหรือไม่ว่า การพัฒนาตนเองเป็นส่วนสำคัญของความก้าวหน้าและความสุข แต่บ่อยครั้งที่ความพยายามในการพัฒนาตนเองอาจจะล้มเหลว เราไม่แน่ใจว่าจะมุ่งหน้าไปทางไหน และเมื่อเกิดสะดุดกับสิ่งที่คาดหวัง มักส่งผลกระทบต่องาน ความสัมพันธ์ หรือชีวิตได้

หากต้องการเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเอง คุณสามารถเริ่มได้จาก สร้างเป้าหมายที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมและพฤติกรรมศาสตร์ให้คำแนะนำในการเติบโตส่วนบุคคลซึ่งง่ายต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ต่อไปนี้คือ 8 เคล็ดลับพัฒนาตนเอง ที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีประสิทธิผลมากขึ้น มีความสุข และมีสุขภาพดี 

1. พัฒนาความสนใจของคุณ Develop your Interests

คุณควรใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ชอบหรือถนัดมากกว่า เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกดี แถมช่วยให้คุณรู้สึกมีอิสระในการแสดงอารมณ์ และกระตุ้นให้คุณทำงานเพื่อสร้างทักษะของคุณต่อไประมัดระวังและอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป หากต้องไล่ตามเป้าหมายมิฉะนั้นคุณอาจหมดกำลังใจ หมดความสนใจในเป้าหมายเหล่านั้นไปซะก่อน

2. พัฒนาการกรอบความคิดที่พัฒนาได้ หรือการเติบโตทางความคิด Develop a Growth Mindset

ความสำเร็จและความล้มเหลวอาจส่งผลต่อความคิดของคุณ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการพัฒนากรอบความคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือความเชื่อที่ว่าคุณสามารถพัฒนาปรับปรุงความคิดของคุณได้ วิธีที่คุณสามารถเสริมสร้างความคิดนี้ได้คือการเอาชนะความท้าทาย สิ่งนี้ไม่ง่ายเสมอไป แต่สามารถทำให้ง่ายขึ้นได้หากคุณคาดการณ์ถึงความท้าทายเหล่านี้เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย และคิดหาวิธีที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ล่วงหน้า คุณควรพร้อมที่จะปรับแผนของคุณเมื่อมีสิ่งท้าทายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น กุญแจสำคัญในการมีกรอบความคิดที่พัฒนาแล้ว คือการขอความช่วยเหลือเมื่อถึงคราวจำเป็น “จำไว้ว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้” “คุณสามารถตอบแทนน้ำใจของผู้อื่นได้โดยการให้ความช่วยเหลือพวกเขากลับเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือนั้นเพื่อเป็นการตอบแทน” ความสำเร็จของคุณสามารถช่วยเสริมสร้างกรอบความคิดที่พัฒนาแล้วได้ และแม้แต่ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ก็ควรได้รับการยินดี คุณสามารถพูดยินดีกับตัวเองและให้กำลังใจตัวเองได้เสมอ อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจด้วยเป็นครั้งเป็นคราว

 3. ตั้งเป้าหมายอัน’ชาญฉลาด’ Set ‘smart’ goals

การมีเป้าหมายไม่เพียงแต่ทำให้คุณเข้าใจทิศทางชีวิตที่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จทุกครั้งที่คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย คุณต้องตั้ง “เป้าหมายที่ชาญฉลาด” ก่อน เป้าหมายเหล่านี้ควรเป็นเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม สมเหตุสมผล และคำนึงถึงเวลา การคิดถึงขั้นตอนที่คุณต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายและจดบันทึกจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น

4. ค้นหาจุดแข็งและใช้จุดแข็งของคุณ Identify and use your strengths

ในขณะที่ต้องทำงานที่คุณขาดประสบการณ์หรือทักษะในการทำให้สำเร็จ การทำสิ่งที่คุณทำได้ดีตามธรรมชาติสามารถให้ความสุขและความพึงพอใจแก่คุณได้ คุณสามารถใช้วิธีนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดการกับงานที่คุณประสบปัญหา  ในกรณีที่คุณยังไม่ได้ตระหนักถึงจุดแข็งที่ซ่อนอยู่ของคุณ ขอแนะนำให้คุณทำแบบสำรวจความเข้มแข็งของคุณได้ที่ Virtues in Action (VIA) www.viacharacter.org ซึ่งเป็นแบบสำรวจออนไลน์ฟรีพร้อมคำถาม 240 ข้อที่จะช่วยให้คุณระบุได้ว่าตัวคุณมีจุดแข็งอะไรบ้าง ผู้ให้บริการสำรวจ VIA Institute on Character จะแนะนำวิธีที่คุณสามารถใช้จุดแข็งของคุณได้

5. มองความล้มเหลวในมุมมองที่ต่างกัน Look at failures from different perspectives

ความล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ก็มักจะทำให้รู้สึกเหมือนถึงจุดจบของโลก หลายคนมักจะมีความคิดที่โทษตัวเองเมื่อพบเจอกับเรื่องล้มเหลว  ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้ว มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เราอาจประสบกับความล้มเหลวในตอนนี้ หรือ เกิดสถานการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องล้มเหลวได้ เมื่อผู้คนทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เขาก็มักจะคิดไปในแง่ลบไว้ก่อนเสมอเลย ซึ่งอาจทำให้การตัดสินใจหลังจากนี้พลาดได้ง่ายๆ และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องท้าทาย “ลองตรวจสอบและคิดหาว่า มีวิธีใหม่ๆ ในการแก้ไขความล้มเหลวได้หรือไม่” หรือชวนเพื่อนมาแบ่งปันความคิดเห็น นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ในการเตือนตัวเองว่าคำว่า ‘ล้มเหลว’ และ ‘จุดจบ’ สามารถเปลี่ยนเป็นคำว่า  “ความพยายามในการเรียนรู้” และ “ความพยายามไม่มีวันตาย” เมื่อคุณพากเพียรพยายามมากพอ คุณจะได้รับความสำเร็จเป็นการตอบแทน

6. ฝึกความรู้สึกขอบคุณ Practice Gratitude

เมื่อคุณทำงานติดพันหรือวุ่นอยู่กับงานอะไรก็ตามเป็นเวลานาน หลายคนมักจะหลงลืมในเรื่องการชื่นชมตัวเองไป ขอให้คุณลองชื่นชมตัวเองแบบง่ายๆ ในแต่ละวัน แค่นี้ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับสี่ส่วนของร่างกายคุณ : ดวงตา จิตใจ มือ และหัวใจ

ดวงตา : ดวงตาเป็นสัญลักษณ์แทนการมองและเฝ้าสังเกตผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัว  “ลองหาเวลาคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ได้พบเจอในแต่ละวัน” นี่เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญที่ควรทำเพื่อทบทวนถึงเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น

มือ : มือเป็นสัญลักษณ์แทนความรู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอบคุณ การเขียนการ์ดขอบคุณ หรือการเตรียมของขวัญเพื่อแสดงความขอบคุณต่อใครสักคน อยากให้คุณลองถ่ายรูปสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณในทุกๆ วันดู เพื่อเตือนตัวเองว่า ในชีวิตของคุณมีมากมายที่รอการขอบคุณ”  สุดท้ายนี้ อย่าลืมใช้หัวใจ “แสดงความจริงใจทุกครั้งที่คุณรู้สึกขอบคุณผู้อื่น”

7. สร้างสัมพันธ์ที่กลมกลืนสามัคคี Build Harmonious Relationships

ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมักจะเป็นตัวกำหนดอารมณ์ของเรา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัมพันธ์ที่ดี และแน่นแฟ้นอบอุ่นภายในครอบครัวและเพื่อนฝูงจึงเป็นรากฐานของสุขภาพจิตที่ดี นอกจากการแสดงความรู้สึกขอบคุณ การฟังและให้ความสนใจผู้อื่นมากขึ้น การใช้คำพูดที่ไตร่ตรอง รอบคอบและสร้างสรรค์ยังช่วยสร้างความสนิทสนมและสัมพันธ์ที่ดีได้อีกด้วย การ feedback หรือเจรจา พูดจาโต้ตอบอย่างสร้างสรรค์ เป็นการแสดงความจริงใจ กระตือรือร้น และสนับสนุนกันอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีคุณค่า การแสดงถึงความความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ จริงใจ เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาเลวร้าย หรือกำลังคิดในแง่ลบหรือพบเจอกับปัญหา  “พยายามมองข้ามปฏิกิริยาทางอารมณ์ในแง่ลบของผู้อื่น และพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรม อารมณ์ หรือมุมมองของพวกเขาด้วยการคิดว่า ถ้าเราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเดียวกันนี้” อย่าให้ความวิตกกังวลมาบั่นทอนชีวิตของคุณ

8. ค้นหาความหมายของชีวิต Search for the Meaning of Life

ชีวิตที่มีความหมาย มีความพอใจในชีวิต หากต้องการเป็นคนที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น คุณลองถามตัวเองว่าคุณจะช่วยเหลือครอบครัว เพื่อนฝูง และสังคมได้อย่างไร “การเป็นอาสาสมัครหรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือเพื่อนหรือการดูแลคนรอบข้างจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า” คุณสามารถวางแผนเป้าหมาย หรือกิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นที่ต้องการของผู้อื่นได้ล่วงหน้า “คุณสามารถคิดทบทวนถึงทุกช่วงเวลาดีๆ และค้นหาว่าความสำเร็จและประสบการณ์ในอดีตของคุณจะช่วยให้คุณสร้างอนาคตที่ดี มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นอีกได้อย่างไร” การพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องของการสร้างทักษะได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใดก็ตาม ต่อเมื่อคุณพัฒนาให้ตัวเองมีความสุขได้ การแบ่งปันและสร้างสรรค์ให้ผู้อื่นมีความสุขไปด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ที่มา : https://www.okmd.or.th/okmd-kratooktomkit/4609/


วิธีตั้งเป้าหมายชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้จริง

5 วิธีตั้งเป้าหมายชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้จริง

ทุกคนย่อมมีเป้าหมายในชีวิตที่วางไว้ และมุ่งมั่นที่จะพุ่งชนเป้าหมายนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายในความก้าวหน้าของงาน เป้าหมายในการดูแลสุขภาพให้มีรูปร่างตามที่ต้องการ หรือเป้าหมายในการเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่อยากได้ ถึงเป้าหมายของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้ว การตั้งเป้าหมายชีวิตก็เพื่อตอบโจทย์ให้ตัวเองทำตามสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ วันนี้เรามีวิธีที่จะช่วยให้เป้าหมายในชีวิตที่เราตั้งไว้ประสบผลสำเร็จ ดังนี้

1. แน่วแน่ไว้ว่า สิ่งที่เราทำนั้น เราต้องการอะไร

เมื่อตั้งเป้าหมายชีวิตแล้ว เราต้องตัดสินใจอย่างแน่วแน่และจริงจังกับมัน บางคนอยากเป็นนักโปรแกรมเมอร์ บางคนอยากเป็นนักกีฬา บางคนอยากมีเงินทองเยอะ ๆ จากการทำธุรกิจ ให้คิดไว้ว่า สิ่งที่เราจะทำนั้นคือสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ไม่ใช่ทำเพราะเห็นคนอื่นทำเลยทำตาม พอทำไม่สำเร็จคุณก็ท้อ และหยุดทำ เพราะนั่นมันไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการจากใจจริง เป็นเพียงแค่กระแสชั่วคราวเท่านั้น

2. กำหนดเป้าหมาย

เมื่อรู้ว่าเป้าหมายในชีวิต หรือสิ่งที่เราต้องการทำคืออะไรแล้ว ลำดับถัดมาก็คือ การกำหนดเป้าหมาย เพราะการที่จะประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดไปเลยว่าจะสำเร็จตรงตามเป้าหมายในวัน เดือน หรือปีใด แต่ต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงที่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วย สุดท้ายแล้วถ้าตั้งเป้าหมายชีวิตไว้แต่ไม่ยอมลงมือทำสักที เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็เป็นเพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงต้องลงมือทำอย่างจริงจังด้วย

3. วางแผน

การวางแผนอาจทำควบคู่ไปกับการกำหนดเป้าหมายในชีวิตเลยก็ได้ โดยอาจจะให้กำหนดออกมาว่า วันนี้เราต้องทำอะไร เดือนหน้าเราต้องทำอะไรต่อ ให้เขียนเป้าหมายไว้เป็นข้อย่อย อาจดูเหมือนเป็นเรื่องยิบย่อย แต่เป้าหมายย่อย ๆ เล็ก ๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ส่งต่อให้ไปถึงเป้าหมายใหญ่ทั้งนั้น เหมือนกระจายงานทำทีละเล็กละน้อย พอรวมกันเข้าก็จะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ ทั้งนี้ทั้งนั้นการวางแผนจะต้องสอดคล้องกับการกำหนดเป้าหมายในการทำให้สำเร็จตามที่วางไว้ด้วย

4. ลงมือปฏิบัติ

เมื่อกำหนดเป้าหมายและวางแผนเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มลงมือปฏิบัติได้เลย จงมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเททำให้เต็มที่ หมั่นทบทวนเป้าหมายในชีวิตของคุณอยู่สม่ำเสมอ อย่าไปกลัวกับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น เพราะอุปสรรคเป็นบททดสอบที่เปรียบเหมือนบันไดให้เราก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จ หากคิดและแก้ไขปัญหาได้ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน

5. สร้างความสำเร็จต่อเนื่อง

เมื่อเราได้เริ่มทำสิ่งต่าง ๆ จนสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว ก็อย่าลืมรักษามาตรฐานนี้เอาไว้ให้คงที่ อย่ามัวแต่หลงอยู่กับความสำเร็จที่ได้มา เพราะไม่รู้ว่าความสำเร็จที่ได้มานั้นจะอยู่กับเราไปตลอดหรือไม่ ควรเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อการพัฒนาตัวเองให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้านดังนั้นแล้ว ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเรา หากเรามุ่งมั่นตั้งใจ มีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เข้ามาระหว่างทาง เชื่อได้เลยว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/5-secrets-to-accomplish-your-goal


วิธีประสบความสำเร็จในการทำงาน

Subtitle

7 วิธีประสบความสำเร็จในการทำงาน

ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ไหน แผนกไหน หรือตำแหน่งไหนก็ตาม ความสำเร็จในการทำงานของคนบางคนอาจไม่ได้มาจากอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น แต่อาศัยว่าเป็นคนที่ใฝ่หาความรู้ และขยันสร้างความชำนาญ สร้างทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ก็สามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้

1. กำหนดเป้าหมายความสำเร็จในแบบของคุณ

ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในการทำงาน การเรียน หรืออะไรก็ตาม ไม่ได้จะต้องเป็นไปตามสิ่งที่คนอื่นคิดเสมอไป ความสำเร็จของคุณ คุณควรเป็นผู้กำหนดเป้าหมาย และเส้นทางการเดินทาง เพื่อที่คุณจะสามารถบรรลุความสำเร็จของคุณได้ เพราะว่าเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณมีเป้าหมายที่มั่นคงก่อนแล้ว จะหลงทาง จะต้องใช้เส้นทางอ้อมไกลแค่ไหน คุณก็ยังรู้ได้ว่าสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ นั้นคืออะไรและเดินทางต่อไปได้นั่นเอง

2. อยากประสบความสำเร็จตามตั้งใจได้จะต้องทำอะไรบ้าง

ในแต่ละวัน คนเราก็จะมีงานต่าง ๆ เข้ามาให้ได้ปวดหัวกันเป็นประจำ บางครั้งสมองเราก็เรียบเรียงไม่ถูก คิดนี่ คิดนั่น อยากทำนี่ ต้องทำนั่น กลายเป็นสะเปะสะปะไม่มีระเบียบ ในที่สุดก็ไม่มีอะไรสำเร็จลุล่วงสักอย่าง ดังนั้นขอแนะนำหลักการทำงานให้ประสบความสำเร็จง่าย ๆ ที่ใช้ได้ผลกว่าที่คิดไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานระดับไหนก็ตาม นั่นก็คือ การเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำรายวัน ตามลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ แนะนำให้จดรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนนอน หรือไม่ก็ทำเป็นอย่างแรกในตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กใหญ่แค่ไหนก็ตาม แล้วจัดลำดับความสำคัญว่าคุณจะต้องทำอะไรให้เสร็จในวันนี้บ้าง อะไรสำคัญกว่ากัน เป็นต้น ความสำเร็จในการทำงานก็จะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

3. เวลาทำงาน คิดอะไรออกให้รีบจด

เป็นกันบ้างหรือเปล่า บางครั้งบางที ความคิดดี ๆ โผล่มาผิดเวล่ำเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำ ตอนขับรถ ก่อนนอน นั่งทานข้าวกลางวัน หากไม่รีบจดไว้ดีไม่ดีจะลืมเอาได้ บางครั้งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการทำงาน บางครั้งบางอย่างอาจจะเป็นไอเดียวิธีพรีเซนต์งานให้ลูกค้าที่นัดไว้ พอลืมทีนี้ล่ะจะเรียกความทรงจำคืนมาก็ลำบากแล้ว กลายเป็นว่าเจออุปสรรคในการไปสู่ความสำเร็จในการทำงานอีก ดังนั้น อีกวิธีง่าย ๆ ก็คือ การพกสมุดจดเล็ก ๆ ติดตัวไว้ หรือจะใช้แอปในโทรศัพท์มือถืออัดเสียงเอาไว้ก่อนก็ได้เช่นกัน

4. มีความอดทนและขยันหมั่นเพียรในการทำงาน

การมีความอดทนอดกลั้น เพียรพยายามในการทำงาน เป็นพลังที่จะส่งเสริมให้เราไปสู่ความสำเร็จได้ คือ อดทนต่อพฤติกรรมคำพูด อดทนต่อความเครียดความเหนื่อยในการทำงาน อดทนต่อสถานการณ์ที่เลวร้าย รู้จักปรับตัว และคิดหาทางแก้ไขปัญหาได้จะสามารถทำให้เราเผชิญปัญหาต่าง ๆ ได้ และประสบความสำเร็จในการทำงานและการใช้ชีวิตในที่สุด

5. ไม่หยุดเรียนรู้พัฒนาตนเอง

คนที่จะสามารถประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ จะต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ไม่มีการหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลิกการวางตัว การแต่งกาย พฤติกรรม วิธีการทำงาน ความเข้าใจในการทำงานในหน้าที่ของตนเอง วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการประเมินความสามารถของตนเองเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน อะไรที่เราควรเรียนรู้เพิ่มเติมก็ควรจะต้องค้นคว้าหาเวลาเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อเป็นการพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไป

6. การสร้างเน็ตเวิร์กที่ดีในวงการ

สมัยนี้การสร้างเน็ตเวิร์กเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทางธุรกิจ เพราะการมีสัมพันธ์ที่ดีในทางธุรกิจอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจหรือโครงการของเราเดินหน้าไปต่อได้ หรือประสบความสำเร็จได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม ไม่มีใครสามารถเก่งอยู่คนเดียวแล้วนำพาทีมให้ประสบความสำเร็จในการทำงานได้ แต่เราจะต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทีมงานที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดี แต่ละคนในทีมงานรู้หน้าที่ และความรับผิดชอบของตนเอง และมีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา และการมีสื่อสัมพันธ์กับธุรกิจอื่น ๆ ที่ดีจะสามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

7. ทำสิ่งดี ๆ ไม่ต้องป่าวประกาศก็ได้

สื่อต่าง ๆ สร้างอิมเมจที่ว่า คนที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานและการใช้ชีวิต หรือคนดี ทำดีแล้วจะตกเป็นข่าว แต่จริง ๆ แล้วสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นมาทุกวันนี้ เกิดจากการปิดทองหลังพระของคนหลาย ๆ คน ทำไปไม่มีใครรู้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่ดี บางครั้งลองทำสิ่งดี ๆ วันละนิดวันละหน่อย โดยไม่ต้องหวังผลอะไรตอบแทน ทำทุกวัน ไม่ต้องบอกใคร แต่พอเราเห็นคนอื่นมีความสุข ได้ผลประโยชน์จากสิ่งที่เราทำไว้ นั่นจะทำให้หัวใจเราพองโตได้มากมายเลยทีเดียว และจะทำให้คุณมีความสุข สนุกกับสิ่งที่ตัวเองทำ และมีแรงผลักดันในการทำงานเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

สุดท้ายนี้ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะสื่อสารภายในองค์กร ระหว่างแผนก ระหว่างองค์กรกับลูกค้า และระหว่างองค์กรกับองค์กร ต่างก็มีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้น การพัฒนาการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น เพื่อให้คุณสามารถถ่ายทอดแนวคิดต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญยิ่งหากเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงาน

ที่มา : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/seven-ways-working-success?


วิธีพัฒนาตัวเองที่ทำให้คุณเก่งเร็วและมีความสุขด้วย!

ที่มา : Auditorium 

ใส่ความเห็น